Getting My ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา To Work
Getting My ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา To Work
Blog Article
อินโฟกราฟิก ภาพรวมสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
สำรวจข้อจำกัดและสัมผัสการทำงานในพื้นที่จริง
ยกตัวอย่างกรณีเด็กที่มีผู้ปกครองประกอบอาชีพก่อสร้าง พบว่าเด็กกลุ่มนี้จะมีการเคลื่อนย้ายตามผู้ปกครอง ไม่ใช่การเคลื่อนย้ายตามภาคการศึกษา แต่เป็นการเคลื่อนย้ายตามฤดูกาลทำงาน ส่งผลให้เด็กต้องออกจากโรงเรียน หรือย้ายโรงเรียน ถึงแม้ว่าโรงเรียนปลายทางยินดีที่จะรับเด็กเข้าศึกษาตามสิทธิการศึกษาของเด็ก แต่ก็จะพบว่าความต่อเนื่องของการเรียน ยังคงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อตัวเด็ก ทำให้เด็กขาดโอกาสในส่วนนี้
“แต่ละภาคส่วนจุดเด่นแตกต่างกัน ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จุดเด่นอยู่ที่ความคล่องตัวเมื่อทำงานกับภาคประชาสังคม มีอำนาจสั่งการมีการกำหนดโครงสร้างการทำงานตามลำดับขั้น มีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ประสานงานกับภาครัฐและเอกชนได้ง่าย ส่วนภาครัฐมีอำนาจสั่งการ สามารถวางรากฐานที่เชิงนโยบายและโครงสร้างการทำงานตามลำดับขั้น มีทรัพยากรเป็นของตนเอง แต่มีความไม่คล่องตัวเนื่องจากระเบียบวิธีทางงบประมาณของภาครัฐ ขณะที่ภาคประชาสังคมจะขาดอำนาจในการสั่งการโดยตรง ขณะเดียวกันภาคประชาสังคมก็ทำงานแนวราบได้ดี แต่ขาดการเชื่อมโยงกับภาครัฐในการช่วยเหลือน้องๆ สุดท้ายภาควิชาการทำให้เกิดความร่วมมือที่หลากหลาย”
นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีสาขาแยกย่อยและเฉพาะทางมากมาย จึงทำให้ผู้ที่ไม่ได้เข้าศึกษาในสาขาที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานจำเป็นต้องเรียนรู้งานใหม่เมื่อเข้าไปทำงานในองค์กรต่างๆ ในขณะเดียวกันโครงสร้างของบางองค์กรก็อาจไม่มีทรัพยากรณ์เพียงพอที่จะนำไปใช้ลงทุนกับนักศึกษาที่ขาดประสบการณ์ หรือพนักงานใหม่
iSEE ฐานข้อมูลเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ภาครัฐบาล ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึงภาคประชาชน ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ควรมีส่วนร่วมในการหาแนวทางแก้ไขให้ช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาลดลง เพื่ออนาคตที่ดีของเยาวชน และสังคมไทยในภายภาคหน้า
แผนกลยุทธ์/แผนการดำเนินงาน แผนกลยุทธ์
ปักหมุดความเหลื่อมล้ำ แก้โจทย์โรงเรียนขนาดเล็ก
ภาพจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
โจทย์เรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นสิ่งที่สังคมไทยเผชิญมานับหลายสิบปี โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียนขนาดเล็กและขนาดใหญ่ไม่มีทีท่าว่าจะร่นระยะเข้าใกล้กันได้เลย กลับกัน มันค่อยๆ ทิ้งห่างมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งด้านพื้นที่ บุคลากร การจัดสรรงบประมาณที่คิดจากรายหัวนักเรียน และติดข้อจำกัดเรื่องกลไกกติกาที่ทำให้องค์กรท้องถิ่นไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือโรงเรียนในพื้นที่ตนเองได้มากขึ้น
iSEE ฐานข้อมูลเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
อาจไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง โดยการคัดกรองที่ ‘ไม่แม่นยำ’ มีส่วนทำให้ตัวเลขนักเรียนยากจนสูงเกินจริง
ลดขนาดของการจัดการในระดับประเทศ มาเป็นระดับพื้นที่